ข้อเท็จจริง “พลาสติกที่ย่อยสลายได้ในสิ่งแวดล้อมธรรมชาติ” (Environmentally Degradable Plastics: EDP)

 พลาสติกสลายตัวได้แบบ “EDP” ที่จริงจริงจำเป็นต้องตามมาตรฐาน Compostable plastics ตามข้อกำหนดพลาสติกย่อยสลายได้ อาทิเช่น ISO 17088 (สากลหรือ ASTM D6400 (อเมริกาหรือ EN 13432 (ยุโรปหรือ สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม 17088-2555 (ไทย)


คำย่อที่ใช้บทความ
PE = Polyethylene
PP = Polypropylene
PS = Polystyrene
PET = Polyethylene terephthalate
PVC = Polyvinyl Chloride
PLA = Polylactic acid
PBS = Polybutylene succinate
PCL = Polycaprolactone



พลาสติกที่แตกสลายทางชีวภาพได้ (Biodegradable plastics) หรือที่คนสามัญรู้เรื่องในชื่อ พลาสติกสลายตัวได้ทางชีวภาพ” (โดยนักเขียนจะใช้คำนี้ตลอดเนื้อหานี้เพื่อนักอ่านทั่วๆไปรู้เรื่องได้ง่ายเป็นตัวแปรสำคัญสำหรับการเปลี่ยนแปลงผ่านนี้เพราะแหล่งวัตถุดิบนั้นมาจากทรัพยากรที่เกิดชดเชยได้เอง ในขณะต้องเพิ่มแนวทางการรีไซเคิลของพลาสติกทั่วๆไป การออกแบบให้การใช้งานแก่นานขึ้น และก็การจัดการข้างหลังการใช้ โดยเหตุนั้น เพื่อความรู้ความเข้าใจที่ถูกสำหรับผู้ใช้รวมทั้งลูกค้า นักเขียนก็เลยได้ชี้แจงเกี่ยวกับพลาสติกที่สลายตัวได้ในสภาพแวดล้อมธรรมชาติ” (Environmentally Degradable Plastics: EDP) ที่เป็นคำที่กำลังถูกประยุกต์ใช้กันในบางประเทศ

ภายใต้ข้อจำกัด แล้วก็ ช่วงเวลา

EDP
 คือ กรุ๊ปพลาสติกย่อยสลายได้ทางชีวภาพ โดยแบ่งเป็นพลาสติกจากธรรมชาติ ยกตัวอย่างเช่น แป้ง และก็เพคติน แล้วก็พลาสติกที่มาจากการสังเคราะห์ อย่างเช่น พอลิแลคติแอซิด (PLA) แล้วก็พอลิคาร์โปแลโตน (PCL) ฯลฯ (UNIDO, 2007) นอกนั้น UNIDO ยังบอกว่า EDP เป็นกรุ๊ปสารโพลีเมอร์ธรรมชาติและก็โพลีเมอร์สังเคราะห์ซึ่งสามารถกำเนิดขั้นตอนเปลี่ยนองค์ประกอบทางเคมีภายใต้ต้นเหตุด้านสภาพแวดล้อม โดยความเคลื่อนไหวองค์ประกอบทางเคมีนั้นจึงควรและก็ตามด้วยการเสื่อมสภาพแล้วก็การดูซึมของจุลอินทรีย์จนได้เป็นก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์รวมทั้งน้ำ ซึ่งการเสื่อมสลายแล้วก็การดูซึมนี้จะต้องเกิดขึ้นได้เร็วพอเพียงที่จะไม่นำมาซึ่งการสั่งสมของสารในสภาพแวดล้อม (UNIDO, 2003) ดังนี้ UNIDO ได้ย้ำว่า อัตราการสลายตัวทางชีวภาพเป็นเรื่องจำเป็นที่จะแยก EDP ออกมาจากโพลีเมอร์อื่นๆอาทิเช่น โพลิเอทิลีน (PE) ที่ไม่บางทีอาจสลายตัวได้เร็วทันใจพอเพียง รวมทั้งอัตราการสลายตัวของ EDP จะอิงกับมาตรฐานการยืนยันสินค้าว่าสามารถสลายตัวได้ทางชีวภาพแล้วก็เสื่อมสภาพได้ทางชีวภาพ (UNIDO, 2003)

ปัจจุบันนี้ มีการใช้คำศัพท์ที่เกี่ยว คำเป็นพลาสติกสลายตัวได้ทางชีวภาพ (Biodegradable plastic) แล้วก็พลาสติกสลายตัวได้ทางชีวภาพโดยการหมักดองแบบใช้ออกสิเจน (Compostable plastic) ทั้งคู่คำนี้สื่อความหมายต่างกัน พูดอีกนัยหนึ่ง พลาสติกเสื่อมสภาพได้ทางชีวภาพ (Biodegradable plastic)” คือ พลาสติกที่เสื่อมสภาพได้โดยกิจกรรมของจุลชีพหรือสิ่งมีชีวิต โดยสามารถมีการย่อยได้อย่างสมบูรณ์ (กำเนิดน้ำ คาร์บอนไดออกไซด์หรือก๊าซมีเทนรวมทั้งชีวมวลถ้าเกิดอยู่ภายใต้สถานการณ์ที่สมควร (อาทิเช่น จุลชีพ ความชุ่มชื้น และก็ความร้อน ที่สมควร ฯลฯแต่ว่านิยามนี้มิได้มีเงื่อนไขของเวลามาเกี่ยวโยงก็เลยครอบคลุมพลาสติกจำนวนไม่ใช่น้อยที่บางทีอาจใช้ช่วงเวลาสำหรับการสลายตัวหลายสิบปีหรือร้อยปี ซึ่งก่อปัญหาไม่ได้แตกต่างจากพลาสติกทั่วๆไปหมายถึงการเกิดปัญหาเรื่องการแปดเปื้อนไมโครพลาสติกในสภาพแวดล้อม

ตั้งแต่อดีตกาล อุตสาหกรรมพลาสติกเพียรพยายามจัดการกับปัญหาพลาสติกที่มีคุณลักษณะทนมากมาย สลายตัวได้ยากในธรรมชาติด้วยการเติมสารเติมแต่งจำพวกแป้งหรือสารอินทรีย์อื่นๆเมื่อแป้งถูกจุลชีวันย่อยแล้ว เศษส่วนประกอบพลาสติกก็จะกระจายตัวเป็นชิ้นเล็กซึ่งในตอนปีทศวรรษ 1980s ผู้สร้างเรียกพลาสติกในรูปแบบนี้ว่า เป็น พลาสติกสลายตัวได้ทางชีวภาพ” (Biodegradable plastics) ถัดมาในปี คริสต์ศักราช 1994 Narayan et al. ได้ออกมาระบุว่า การเติมแป้ง (ปริมาณร้อยละ 6-15) ในพลาสติกชนิด PE รวมทั้ง โพลิโพรพิลีน (PP) ในความจริง เป็นการทำให้พลาสติกกระจายตัว (Disintegration หรือ Fragmentation) เพียงแค่นั้น ไม่ได้สลายตัวได้ทางชีวภาพอย่างสมบูรณ์ มีข้อมูลที่ทำให้เห็นว่า ส่วนประกอบที่เป็นแป้งหรือสารอินทรีย์เพียงแค่นั้นที่เสื่อมสภาพได้ทางชีวภาพ แม้กระนั้นพลาสติก PE หรือ PP ที่มีคุณลักษณะเสื่อมสภาพยากยังคงอยู่ในสภาพแวดล้อม (Rudnik, 2012; Bioplastics Division of Plastics Industry Association, 2018) ดังนี้ พลาสติกที่มีการเพิ่มเติมสารเติมแต่งเพื่อรีบให้พลาสติกกระจายตัวเป็นชิ้นเล็กเร็วขึ้นนั้นถูกเรียกว่าเป็นพลาสติกจำพวกออกโซ (Oxo-degradable plastic) ในหลายสาเหตุ ผู้สร้างหลีกเลี่ยงไปใช้คำว่า Oxo-biodegradable plastic เพื่อมองว่าย่อยสลายได้ทางชีวภาพ แม้กระนั้นก็เป็นพลาสติกประเภทเดียวกัน (European Commission, 2018) สารเติมแต่งในกลุ่มนี้จะช่วยปรับพลาสติกทั่วๆไป ดังเช่น PE, PP, PS, PET, PVC กระจายตัวเป็นชิ้นเล็กลง แล้วก็มีมากไม่น้อยเลยทีเดียวขึ้น โดยจะเกิดขึ้นในสถานการณ์ที่มีแสงสว่าง ความชุ่มชื้นหรือความร้อน หรือสภาพการณ์ทางด้านกายภาพ (สถานการณ์อากาศ)

1ม่
น้อยส่วนพลาสติกประเภทออกโซนั้น นักวิชาการ หน่วยงานภาครัฐและก็เอกชนได้ตรวจดูระดับการเสื่อมสลายได้ทางชีวภาพแล้วก็ความทำให้เป็นอันตรายต่อสภาพแวดล้อมซึ่งการวิจัยโดยมากชี้ว่า พลาสติกที่เกิดขึ้นจากวิธีการ Oxidation หรือกรรมวิธีสลายตัวได้ด้วยแสงสว่าง ความร้อน อื่นๆอีกมากมาย แล้ว พลาสติกที่กระจายตัวเป็นชิ้นเล็กก็ยังไม่มีหลักฐานทางด้านวิทยาศาสตร์ที่บ่งชัดว่า ส่วนประกอบที่แตกออกนี้จะสามารถถูกย่อยโดยเอ็นไซม์ของจุลชีพได้ โดยกรรมวิธีการสลายตัวได้ทางชีวภาพจะต้องอาศัยช่วงเวลาที่นานเกินกว่าช่วงเวลาที่ผู้สร้างพลาสติกออกโซกล่าวอ้าง ซึ่งกรรมวิธีนี้ย่อมจะก่อให้กำเนิดปัญหาไมโครพลาสติกสะสมแล้วก็หลงเหลือในสภาพแวดล้อม แล้วก็เพิ่มการเสี่ยงของการแปดเปื้อนไมโครพลาสติกในห่วงโซ่ของกินของคนเรา (เนื้อหามองใน EU Report 2016; Bioplastics Division of Plastics Industry Association, 2018) ฉะนั้น ในช่วงปลายปี 2560 หน่วยงานต่างๆอีกทั้งภาคธุรกิจ กรุ๊ปพลาสติก องค์กรพัฒนาเอกชน นักวิทยาศาสตร์ นักวิชาการแล้วก็มหาวิทยาลัยกว่า 150 หน่วยงานได้ด้วยกันออกถ้อยแถลงเพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลทั่วทั้งโลกแบนพลาสติกประเภทออกโซ (Ellen McArthur Foundation’s New Plastics Economy, 2017) ทั้งยังพลาสติกทั่วๆไป (PE, PP, PS, PET, PVC) ที่เพิ่มสารประเภทออกโซยังไม่เหมาะสมกับการใช้ซ้ำ (เนื่องจากบางทีอาจแตกเป็นชิ้นในระหว่างเก็บคือปัญหากับแนวทางในการรีไซเคิล (เมื่อปนเปกับพลาสติกทั่วๆไปจะมีผลให้ขั้นตอนการพลาสติกรีไซเคิลมีคุณภาพที่ควบคุมมิได้หรือห่วยแตกลงหรือแนวทางการทำปุ๋ย (European Commission, 2018) ดังนี้ สหภาพยุโรปอยู่ในระหว่างการบัญญัติกฎหมายเพื่อห้ามผลิตรวมทั้งใช้พลาสติกประเภทออกโซและก็พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้งอื่นๆ(Aljazeera, 28 March 2019) เหมือนกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและก็สภาพแวดล้อมของเมืองไทยได้ประกาศแผนการที่จะยกเลิกการใช้พลาสติกประเภทออกโซและก็พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้งอื่นๆรวม ประเภท

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ข้อเท็จจริงของข้อคิดเห็น ข้อคิดเห็นของข้อเท็จจริง ข้อคิดเห็นของข้อคิดเห็น และข้อเท็จจริงของข้อเท็จจริง